BB STEEL INTERNATIONNAL

จำหน่ายBasket Strainer ราคาถูก,Strainer type Manual, Automatic Basket Strainer, Duplex Strainer, Automatic Duplex Strainer, Auto Cleaning Strainer,Backwash Water Filter,T Strainer, Screen Filter, Hydrocyclone Separator, Inline Flame Arrester, End of line Flame Arrester, Breather Valve with Flame Arrester,Pressure Gauge type Diaphragm Seal, กระจกทนความร้อน,กระจกทนแรงดัน, Flow,Indicator Sight Glass, Sight glass hight temp, Anode, Valves www.bbsinter.com Tel. 061-5906036, email: bbssale1@gmail.com

หจก. บีบี สตีล อินเตอร์เนชั่นแนล

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สแตนเลสมีกี่ชนิด

สเตนเลส สตีล(stainless steel) แบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก
1) กลุ่ม เฟอร์ริติก (Ferritic SS) จุลโครงสร้าง: แบบเฟอร์ไรต์ แม่เหล็กดูดติด มีส่วนผสมของคาร์บอนต่ำ และ มีโครเมียม เป็นส่วนผสม
หลัก คือประมาณ 10.5-29 % มักนำไปใช้ทำถังน้ำต่าง ๆ (Tank) ทำผนัง เครื่องใช้ภายในบ้านทำเครื่องครัว ทำเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ
ส่วนผสมทางเคมี Cr 10.5-29 % C < = 0.1 % (คาร์บอนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.1 %)  Ni 0 % (ไม่มีนิเกิลผสมอยู่)
เกรดที่พบ AISI 430 , 430Ti , 439 , 409

2) กลุ่มมาร์เทนซิติก(Martensitic SS) จุลโครงสร้าง: แบบมาร์เทนไซต์แม่เหล็กดูดติด โดยทั่วไปจะมีโครเมียมผสมอยู่ 10.5-17 %
และมีส่วนผสมของคาร์บอนในระดับปานกลาง มักนำไปใช้ทำส้อม มีด ใบมีดโกน เครื่องมือแพทย์ และเครื่องมือวิศวกร อื่นๆ ซึ่งต้องการคุณสมบัติ
เด่นในด้าน การต้านทานการสึกกร่อน และ ความแข็งแรงทนทานส่วนผสมทางเคมี Cr 10.5-17 % C > 0.1 % (คาร์บอนมากกว่า 0.1 %)
Ni 0 % (ไม่มีนิเกิลผสมอยู่)มีค่าความจำนนความแข็งแรง (Yield Strength : YS) และค่าความแข็งแรงสูงสุด (Ultimate TensileStrenght : UTS)
สูงมากในสภาพที่ผ่านกระบวนการอบชุบ แต่จะมีค่าการยืดตัว (Elongation : EL %) ต่ำ
เกรดที่พบ AISI 410 , 420

3) กลุ่มออสเตนิติก (Austenitic SS) จุลโครงสร้าง : แบบออสเตนไนต์ แม่เหล็ดดูดไม่ติดนอกจากส่วนผสมของโครเมียม
(Cr) 16-18% แล้ว ยังมีนิเกิล(Ni) ผสมอยู่ 8-13% ที่ช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนอีกด้วย ชนิดออสเตนิติก เป็นที่นิยมใช้อย่างกว้างขวางมากที่สุดในบรรดา
สเตนเลสด้วยกัน ส่วนออสเตนิติกที่มีโครเมียม(Cr)ผสมอยู่สูง 20% - 25% และนิกเกิล(Ni)
1% - 20% จะสามารถทนการเกิดออกซิไดซ์ได้ที่อุณหภูมิสูง ซึ่งใช้ในส่วนประกอบของ เตาหลอม
ท่อนำความร้อน และแผ่นกันความร้อนในเครื่องยนต์ จะเรียกว่า เหล็กกล้าไร้สนิม ชนิดทนความร้อน
(Heat Resisting Steel)
ส่วนผสมทางเคมี Cr 16-18 % C < = 0.08 %(คาร์บอนน้อยกว่า 0.08 %)Ni 8-13% (ทำให้แม่เหล็กดูดไม่ติด)
เกรดที่พบ AISI 304 , 316 , 304L ,316 L (** L = เน้นงานเชื่อม )

4) กลุ่มดูเพล็กซ์ (Duplex) แม่เหล็กดูดติด มีโครงสร้างผสมระหว่างเฟอร์ไรต์+ออสเตไนต์
มีโครเมียมผสมอยู่ประมาณ 20-25 % และนิเกิล 4 - 7 % เหล็กชนิดนี้มีค่าความจำนนความแข็งแรง
และค่าความยืดตัวสูง จึงเรียกได้ว่า เหล็กชนิดนี้มีทั้งความแข็งแรง และความเหนียว (Ductility)
ที่สูงเป็นเลิศ ใช้ในงานมักถูกนำไปใช้งานที่มีคลอรีนสูง เพื่อป้องกันมิให้เกิดการกัดกร่อนแบบรูเข็ม
(Pitting corrosion) และช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนที่เป็นรอยร้าวอันเนื่องมาจากแรงกดดัน
(Stress corrosion crackingresistance) ทำฐานขุดเจาะน้ำมัน ฯลฯ
ส่วนผสมทางเคมี Cr 20-25 % C = 0 %(ไม่มีส่วนผสมคาร์บอน)
Ni 4-7%

5) กลุ่มพรีซิพิเตชั่นฮาร์เดนนิ่ง(Precipitation Hardening Steel) กลุ่มนี้เกิดการตกผลึกโดยวิธี
ทางความร้อน เป็นเหล็กกล้าชุบแข็งแบบตกผลึก มีโครเมียม(Cr) ผสมอยู่ 17 % และมีนิเกิล
(Ni) 4% ทองแดง และไนโอเบียมผสมอยู่ด้วย มีความต้านทานกการกัดกร่อนเทียบเคียงกับ
ตระกูลออสเทนนิติคมีความแข็งแรงมากกว่าตระกูลมาร์เทนซิติค เกรด 17-4H เนื่องจากเหล็กชนิดนี้
สามารถชุบแข็งได้ในคราวเดียว จึงเหมาะสำหรับ ทำแกนปั้ม หัววาล์ว และส่วนประกอบของยานอวกาศ
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฯลฯ

คุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติทางกายภาพของสเตนเลส(stainless)
ค่าความหนาแน่นสูงของสเตนเลสแตกต่างจากวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ใน
ส่วนของคุณสมบัติเกี่ยวกับความสามารถทนความร้อนของสเตนเลส มีข้อสังเกต 3 ประการคือ
- การที่มีจุดหลอมเหลวสูง ทำให้มีอัตราความคืบดี เมื่อเทียบกับเซรามิกที่อุณหภูมิต่ำกว่า 1000องศาC
- การที่มีค่านำความร้อนระดับปานกลาง ทำให้สเตนเลสเหมาะที่จะใช้ในงานที่ต้องทนความร้อน
(ตู้คอนเทนเนอร์) หรือต้องการคุณสมบัตินำความร้อนได้ดี (เครื่องถ่ายความร้อน)
- การมีค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวระดับปานกลาง จึงสามารถใช้ความยาวมาก ๆ ได้โดยใช้ตัวเชื่อม
น้อยเช่นในการทำหลังคา

คุณสมบัติเชิงกล
สเตนเลส(stainless)โดยทั่วไปจะมีส่วนผสมของเหล็กประมาณ 70-80% จึงทำให้มีคุณสมบัติ
ของเหล็กที่ สำคัญ 2 ประการ คือ ความแข็งและความแกร่ง คุณสมบัติเชิงกลเปรียบเทียบกับวัสดุ
ชนิดอื่น จะเห็นได้ว่าพลาสติกซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางมีความแข็งแรง และโมดูลัส
ความยืดหยุ่นต่ำ ส่วนเซรามิกมีความแข็งแรงและความเหนียวสูงแต่มีความแกร่งหรือความสามารถ
รับแรงกระแทกโดยไม่แตกหักต่ำสเตนเลส(stainless)ให้ค่าเป็นกลางของทั้งความแข็ง ความแกร่ง
และความเหนียว เนื่องจากมีส่วนผสมของธาตุเหล็กอยุ่มาก และจะมีเพิ่มขึ้นอีกในชนิดออสเตนิติก
ค่าความแข็งแรงสูงสุด (Ultimate Tensile
Strength) ของสเตนเลส ไม่ว่าจะชนิดที่อ่อนตัวง่าย ซึ่งสามารถทำให้ขึ้นรูปเย็นได้ดี เช่น การขึ้น
รูปลึก(Deep Drawing) จนถึงชนิดความแข็งแรงสูงสุด ซึ่งได้จากการขึ้นรูปเย็นหรือการทำให้
เย็นตัวโดยเร็ว(Quenching) หรือชนิดชุบแข็ง แบบตกผลึก(Preciptation
Hardening) ซึ่งเหมาะใช้ทำสปริง


คุณสมบัติโดยทั่วไปของ สเตนเลส 5 ชนิด
สเตนเลสต่างชนิดกันที่มีโครงสร้างต่างกัน จะมีลักษณะค่าความแข็งแรงที่เปลี่ยนแปลงแตกต่างกัน

- กลุ่มเฟอร์ริติก (Ferritic SS) มีค่าความจำนนความแข็งแรง และค่าความแข็งแรงสูงสุด
ปานกลาง เมื่อรวมกับค่าความยืดตัวสูง จึงทำให้สามารถขึ้นรูปได้ดี เกรดที่พบ AISI 430,
430Ti , 439 , 409

- กลุ่มมาร์เทนซิติก (Martensitic SS.)มีค่าความจำนนความแข็งแรง (Yield
Strength : YS) และค่าความแข็งแรงสูงสุด (Ultimate Tensile
Strenght : UTS)สูงมากในสภาพที่ผ่านกระบวนการอบชุบ แต่จะมีค่าการยืดตัว
(Elongation : EL %) ต่ำ เกรดที่พบ AISI 410 , 420

- กลุ่มออสเตนิติก (Austenitic SS.)มีค่าความจำนนความแข็งแรงใกล้เคียงกับ
ชนิดเฟอร์ริติก แต่มีค่าความแข็งแรงสูงสุดและความยืดตัวสูง จึงสามารถขึ้นรูปได้ดีมาก
เกรดที่พบ AISI 304 , 316 , 304L ,316 L    (** L = เน้นงานเชื่อม )

- กลุ่มดูเพล็กซ์( Duplex SS.) แบบออสเตไนท์ + เฟอร์ไรต์ มีค่าความจำนนความ
แข็งแรง และค่าความยืดตัวสูงจึงเรียกได้ว่า เหล็กชนิดนี้มีทั้งความแข็งแรง และความเหนียว
(Ductility) ที่สูงเป็นเลิศ

- กลุ่มพรีซิพิเตชั่นฮาร์เดนนิ่ง (Precipitation HS.) กลุ่มนี้เกิดการตกผลึกโดยวิธีทางความร้อน
เป็นการการพัฒนา ความแข็งแรง (strength) ความเหนียว (ductility) มีส่วนสผมของ
โครเมียม(Cr) 17 %มีนิเกิล(Ni) 4% ทองแดง และไนโอเบียมผสมอยู่ด้วย จึงทนต่อการ
กัดกร่อนได้เป็นอย่างดี

ความต้านทานการกัดกร่อน
เหตุใด? สเตนเลส(stainless)จึงทนต่อการกัดกร่อนได้ โลหะทุกชนิดทั่วไปจะทำ
ปฎิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ เกิดเป็นฟิล์มออกไซต์บนผิวโลหะ หรือออกไซต์ ที่เกิดบน
ผิวเหล็กทั่วไป จะทำปฎิกิริยาออกซิไดซ์ และทำให้เกิดสภาพพื้นผิวเหล็กผุกร่อน ที่เราเรียกว่า
เป็นสนิม แต่สเตนเลส(stainless)มีโครเมียม(Cr)ผสมอยู่ 10.5%ขึ้นไป ทำให้
คุณสมบัติของฟิล์มออกไซต์บนพื้นผิวเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นฟิล์มปกป้อง หรือพลาสซิฟเลเยอร์
(Passive Layer) ที่เหมือนเกราะป้องกันการกัดกร่อน ซึ่งปรากฎการณ์นี้เรียกว่า
พาสซิวิตี้ (Passivity)ฟิล์มปกป้องนี้จะมีขนาดบางมาก (สำหรับแผ่นสเตนเลสบางขนาด
1 มม. ฟิล์มหรือพาสซีฟ เลเยอร์นี้ จะมีความบางเทียบเท่ากับวางกระดาษ 1 แผ่น บนตึกสูง 20 ชั้น)
และมองตาเปล่าไม่เห็นฟิล์มนี้จะเกาะติดแน่น และทำหน้าที่ปกป้องสเตนเลส จากการกัดกร่อนทั้งมวล
หากนำไปผลิตแปรรูปหรือใช้งานในสภาพเหมาะสม เมื่อเกิดมีการขีดข่วน ฟิล์มปกป้องนี้จะสร้าง
ขึ้นใหม่ได้เองตลอดเวลา ความคงทนของพาสซีสเลเยอร์ เป็นปัจจัยหลักของความต้านทานการ
กัดกร่อนของสเตนเลส นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับสภาพการกัดกร่อน อันได้แก่ ความรุนแรง
ของปฏิกิริยาออกซิไดซ์ ความเป็นกรดปริมาณสารละลายคลอไรต์ และอุณหภูมิ โดยทั่วไปแล้วการ
เพิ่มปริมาณ โครเมียม(Cr) จะช่วยเพิ่มความ ต้านทาน การกัดกร่อนของสเตนเลส การเติมนิเกิล
(Ni)จะช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนโดยทั่วไป ให้ทนสภาวะกัดกร่อนรุนแรงได้
ส่วนโมลิบดินัมจะช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนเฉพาะที่ เช่น การกัดกร่อนแบบรูเข็ม
(Pitting Corrosion)
ในทางปฏิบัติ สเตนเลสชนิดเฟอร์ริติก มีการใช้งานจำกัดในสภาพการกัดกร่อนปานกลางและใน
สภาพชนบท ทั้งชนิดเฟอร์ริติกและออสเตนิติก สามารถใช้ทำ อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนได้ แต่
เนื่องจากชนิดออสเตนิติกสามารถทนการกัดกร่อนได้ดี และทำความสะอาดง่าย จึงนิยมใช้ใน
อุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม นอกจากนี้ชนิดออสเตนิติกยังทนการกัดกร่อนจากสารเคมี
หลายประเภทได้แก่ กรด, อัลคาลายด์ เป็นต้น ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย ในอุตสาหกรรมเคมี
และกระบวนการผลิตต่าง ๆ

ผิวสำเร็จชนิดต่างๆ ของสเตนเลส
#240 - ผิวที่ผ่านการขัดด้วยวัสดุสำหรับขัด เบอร์ 240
#320 - ผิวที่ผ่านการขัดด้วยวัสดุสำหรับขัด เบอร์ 320
#400 - ผิวที่ผ่านการขัดด้วยวัสดุสำหรับขัด เบอร์ 400
HL - ผิวผ่านการขัดละเอียด โดยมีลายขัดเป็นเส้นต่อเนื่องคล้ายเส้นผม (Hair line)
Mirror - ผิวจะเงาและสะท้อนดีมาก ได้จากการขัดด้วยวัสดุที่ละเอียดมาก
Distressed - ผิวที่มีลวดลายรอยขีด (Scratch) ไม่เป็นระเบียบ (Random)

Embossing - ผิวมีลวดลายนูนจากการรีด
Plating - ผิวเคลือบด้วยโลหะมีสี หรือเคลือบด้วยโลหะมีค่า


หจก. บีบี สตีล อินเตอร์เนชั่นแนล จำหน่าย Strainer Filter, Y Strainer Filter, T Strainer Filter, Basket Strainer Filter,  Duplex Strainer Filter, Automatic Strainer Filter, Automatic Backwash Strainer Filter, Hydrocyclone Separator,  automatic strainer self cleaning and Temporary filter,  สแตนเนอร์กรองน้ำ,สแตนเนอร์กรองทราย,สแตนเนอร์กรองละเอียด,ไส้กรองสแตนเนอร์,สแตนเนอร์กรองทรายน้ำบาดาล,สแตนเนอร์กรองทรายสระว่ายน้ำ,สแตนเนอร์กรองทรายเรือ,สแตนเนอร์กรองตะกอนน้ำ,สแตนเนอร์กรองตะกรัน,สแตนเนอร์กรองตะกอนน้ำประปา,สแตนเนอร์กรองตะกอนน้ำบาดาล,สแตนเนอร์กรองหยาบ,สแตเนอร์กรองน้ำมัน

หากคุณลูกค้าต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับ  Strainer Filter, Y Strainer Filter, T Strainer Filter, Basket Strainer Filter,  Duplex Strainer Filter, Automatic Strainer Filter, Automatic Backwash Strainer Filter, Hydrocyclone Separator,  automatic strainer self cleaning and Temporary filter สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายขาย

basket strainerราคา,basket strainerคือ,จำหน่ายbasket strainer,strainer filter,strainer valve,จำหน่าย strainer,สแตนเนอร์,สแตนเนอร์กรองน้ำ,กรองสแตนเนอร์คือ,สแตนเนอร์ ทำหน้าที่อะไร,สแตนเนอร์ กรองทราย,สแตนเนอร์ กรองละเอียด,หัวกรองสแตนเนอร์ราคา,ไส้กรองสแตนเนอร์,manual basket strainer,basket strainer manual,basket strainerคือ,basket strainer yoshitake,basket strainers,basket strainer price,stainless steel strainer,stainless steel basket strainer,stainless steel basket filter,stainless steel basket strainer waste,carbon steel strainer,carbon steel basket strainer,basket strainer manufacturers,basket strainer maintenance,บัคเก็ตสแตนเนอร์,basket strainer carbon steel manual
strainer valve


บทความที่เกี่ยวข้อง


Stainless Steel Strainer Filter